Data protection policy

ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับลูกค้า

ของ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ

        เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆในอนาคต บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) (ต่อไปในประกาศฉบับนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)ของบริษัท และบริษัทในเครือนี้ เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัท ปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม ได้แก่ วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีอัตโนมัติ หรือไม่ก็ตาม ที่ทำให้สามารถเข้าถึง หรือพร้อมใช้งานโดยการจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัด หรือการห้ามเข้าถึง การลบ หรือการทำลาย

        บริษัทจึงขอแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่าน และทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่างๆ ภายใต้ประกาศฉบับนี้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

กลุ่ม หรือประเภทของบุคคลที่บริษัท ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ประกาศ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัท ทำการเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย

1. “ลูกค้า” หมายถึง บุคคลที่ซื้อสินค้า และ/หรือใช้บริการจากบริษัท และ/หรืออาจจะซื้อสินค้า และ/หรือใช้บริการจากบริษัท หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษะคล้าย เช่นผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน หรือผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูล หรือขอรับบริการจากบริษัท และบริษัทในเครือ เป็นต้น

2. “ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า” หมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือตัวแทนของลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรใดๆ ของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และรวมถึง ผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น

 

วิธีที่บริษัท เก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

1. บริษัทเก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

        1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยตรง

         ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทโดยตรง เช่น

        – เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชมแก่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบลายลักษณ์อักษร หรือวาจา ผ่านทางเว็ปไซต์ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์ อีเมล์ โทรสาร ไปรษณีย์ การพบปะกันโดยตรง หรือวิธีการอื่นใด

        – เมื่อท่านแสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้า หรือใช้บริการจากบริษัท เข้าทำสัญญาซื้อขายกับบริษัท หรือส่งมอบเอกสารต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่ให้แก่บริษัท

        – เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด การจับสลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่จัดขึ้นโดย หรือในนามของบริษัท เป็นต้น

        1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากบุคคลภายนอก

        บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจองท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น

        – การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่างๆของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการเว็ปไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการพื้นที่พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ผู้ให้บริการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) ผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์ และแนะนำสินค้า/บริการ และผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูล เป็นต้น

        – บางกรณีบริษัท อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเอง หรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว

2. ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆ ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้กำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

3. กรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทจะเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านมีสิทธิที่จะยกเลิกความยินยอมได้ โดยติดต่อมายังบริษัท ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในท้ายของประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้บริษัทขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่าน และดำเนินการตามฐานประมวลผลที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

        ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวม และประมวลผลภายใต้ประกาศฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากบุคคลภายนอกได้แก่

        1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ เป็นต้น

        2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล์ ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น

        3. ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้า เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้า หรือสถานประกอบการของลูกค้า (เช่น ชื่อ เลขทะเบียน สถานที่ตั้ง และข้อมูลการติดต่อ) เป็นต้น

        4. ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย เช่น รหัสลูกค้า รายละเอียดการสั่งซื้อ (อาทิ สินค้าที่ต้องการ จำนวน  และคุณภาพ) และรายละเอียดการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้า (อาทิ วันที่สั่งซื้อสินค้า ประเภทสินค้า สาขาที่เกี่ยวข้อง และปัญหาที่พบ) เป็นต้น

        5. ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน วงเงินสินเชื่อ เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฎในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน และใบหักบัญชีเงินฝาก เป็นต้น

        6. ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นลูกค้ากับบริษัท หรือในการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนการค้า สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน แบบฟอร์มลงทะเบียน สำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน ใบขอเปิดหน้าบัญชีลูกค้า หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาภพ.09/20 แผนที่ เอกสารที่เป็นหลักประกัน (ถ้ามี) (เช่น หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) และหนังสือค้ำประกันโดยบุคคล) สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม และใบส่งสินค้า เป็นต้น

        7. ข้อมูลอื่นๆ เช่น พฤติกรรม หรือแนวโน้มในการซื้อสินค้า และ/หรือบริการ บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น

 

วัตถุประสงค์ และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

        บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

ลำดับ วัตถุประสงค์ ฐานประมวลผลตามกฎหมาย
1 เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนการสมัครเป็นลูกค้า หรือเพื่อเปิดบัญชีลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ฐานสัญญา เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน บริษัทจึงจำเป็นดำเนินการเพื่อใช้ตามคำขอของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน สำหรับการลงทะเบียนเป็นลูกค้ารายใหม่ หรือการเปิดบัญชีลูกค้า ผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด เป็นต้น
ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ ของบริษัท เช่น การจัดการบัญชี และการตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตนของลูกค้า เป็นต้น
2 เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ข้อมูล และสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า หรือบุคคล อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ฐานความยินยอม การที่บริษัท เป็นฝ่ายเข้าขอสัมภาษณ์ สำรวจ และสังเกตพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อขอเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือการซื้อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า มากจากบุคคลภายนอก เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูล และสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน บริษัทจะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันก่อน หรือในขณะที่เก็บข้อมูล
3 เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำสัญญา และการวางหลักประกัน ฐานสัญญา การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าทำสัญญา และกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา เช่น การตรวจสอบหลักฐานประกอบการทำสัญญา การพิจารณาวงเงินสินเชื่อ และการวางหลักประกัน เป็นต้น
ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ ของบริษัท เช่น การบริหารจัดการสัญญา การตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า และการพิจารณาคุณสมบัติของลูกค้า เป็นต้น
4 เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ฐานสัญญา การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซื้อขาย และบริการ ซึ่งลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา เช่น การสั่งซื้อผ่านช่องทางใดๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางของบริษัท โดยตรง หรือช่องทางของบุคคลที่สาม อาทิ ณ จุดขาย ผ่านเว็ปไซต์ หรือแอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่นๆเป็นต้น ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือของบุคคลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ ของบริษัท เช่นการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า และการตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า เป็นต้น 
5 เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเตรียมสินค้า และ/หรือบริการ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ฐานสัญญา การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา เช่น การจัดส่งสินค้า การวางบิล การยืนยันยอดหนี้ค้างชำระ และการจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ ของบริษัท เช่น การติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เป็นต้น 
6 เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการแก้ไข เปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าในระบบของบริษัทฯ ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย การประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันในระบบของบริษัท ให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
7 เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย การประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในการร้องเรียน หรือส่งข้อเสนอแนะจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัท
8 เพื่อวัตถุประสงค์ในการประชาสัมพันธ์ เสนอสินค้า และบริหาร รวมถึงเพื่อกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท และบริษัทในเครือ ฐานความยินยอม บริษัทอาจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใดๆ อาทิ การส่งข้อความเกี่ยวกับการสื่อสารทางการตลาดให้แก่ลูกค้า การขอถ่ายภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวของลูกค้า เพื่อนำไปประมวลภาพ และประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางการตลาดตามช่องทางสื่อต่างๆ บริษัทจะดำเนินการโดยขอความยินยอมจากท่านก่อน หรือขณะที่ดำเนินกิจกรรม
9 เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์การใช้งาน เว็ปไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่นๆ ของท่าน เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัท หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด ฐานะประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้งานเว็ปไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่นๆ เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจ และการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัท เช่น การปรับปรุงเว็ปไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่นๆ การพัฒนาคุณภาพสินค้า และบริการตลอดจนการแก้ไขข้อบกพร่อง และปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และบริการ ฐานความยินยอม ในกรณีที่บริษัท เก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรม และทำโฆษณาแบบเจาะจงตามพฤติกรรมของท่าน หรือทำการตลาดแบบตรง หรือในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่านก่อน หรือขณะดำเนินการ 
10 เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับการให้บริการต่างๆ ของบริษัท เช่น การดำเนินการตามคำขอใช้บริการ การตอบข้อซักถาม หรือข้อเสนอแนะของท่าน เป็นต้น
11 เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ฐานกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งบังคับใช้กับบริษัท อาทิ กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
12 เพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสูซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัท ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทในขั้นตอนต่างๆ ตามกฎหมาย เช่น การสอบสวน และ/หรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และ/หรือการต่อสู้คดี ในชั้นศาล เป็นต้น
13 เพื่อการดำเนินการใดๆ ที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดใดๆ ข้างต้น ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในการดำเนินการใดๆ ที่จำเป็นของบริษัท และ/หรือเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน หรือระหว่างการดำเนินการ
14 เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่บริษัท จะแจ้งให้ท่านทราบ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเมื่อบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้ ทั้งนี้หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน หรือระหว่างการดำเนินการ 

        เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัท จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น ในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญา หรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ ตามแต่กรณีที่อาจเกิดขึ้นนั้น

        ในกรณีดังกล่าว บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขาย หรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน

 

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

        บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด และตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้แก่บุคคล และหน่วยงานดังต่อไปนี้

        1. เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัท ซึ่งหมายความรวมถึง ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็น

        2. คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมาย หรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท ในการให้บริการต่างๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการเก็บข้อมูล บริการชำระเงิน บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการตลาด หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท

        3. บุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นที่ปรึกษาของบริษัท อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายใน และภายนอกบริษัท

        4. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการอาหาร และยา สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

        5. บุคคล หรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคล หรือหน่วยงานนั้นๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่างๆ ของบริษัทให้แก่ประชาชนทั่วไป

        6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กำหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อน หรือระหว่างการดำเนินการ

        7. ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผย และเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐาน และหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ กรณีที่บริษัท ส่งหรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนด โดยบริษัทจะขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

        บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ

        นอกจากนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กำหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้น หรือที่เกี่ยวข้องกับเอกสาร หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัท และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ

        ในเบื้องต้นบริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทสิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าว หากกฎหมายอนุญาต หรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัท

        หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บ หรือระบบของบริษัท และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัท (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทสามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัท ตามแนบท้ายประกาศฉบับนี้

 

สิทธิต่างๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

        ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล คำอธิบาย
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจขอให้บริษัท ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัท อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้
สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน หากท่านมีความกังวล หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัท เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัท โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 9 ของประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบ และวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

        ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำรองขอใช้สิทธิของท่าน โดยบริษัทจะดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้

 

วิธีการติดต่อบริษัท

        ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใดๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ท่านสามารถติดต่อกับบริษัทผ่านช่องทางดังนี้

               – บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)

               – เลขที่ 71 อาคาร SP Arcade ชั้น 3 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

               – โทรศัพท์ 02-319-4949

               – โทรสาร 02-319-7337

               – อีเมล์ pdpa@sappe.com

 

การเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้

        บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้โดยบริษัท บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศที่มีความสำคัญผ่านช่องทางที่เหมาะสม

        ประกาศ ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2565